หลังจากที่ได้ลองใช้บริการโฆษณาบนเว็บ Social Networks อย่าง Facebook มาสักระยะหนึ่งแล้ว ก็รู้สึกว่าต่อไปจะต้องไปรับความนิยมในหมู่นักการตลาดชาวไทยอย่างแน่นอน เพราะนอกจากความง่ายของระบบการลงโฆษณาด้วยตัวเองที่ง่ายกว่า Google Adwords เป็นอย่างมากแล้ว การที่ผู้ลงโฆษณาสามารถเลือกกลุ่มผู้ที่จะได้เห็นโฆษณาได้ในหลายรูปแบบนั้น มันทำให้การวัดความคุ้มค่า (ROI) สามารถทำได้ชัดเจนมากยิ่งกว่ารูปแบบการโฆษณาที่แสดงจากผลการค้นหาเพียงอย่างเดียว ซึ่งจริงๆแล้วโฆษณาบน Facebook เองก็สามารถระบุ keyword ได้เหมือนกันแต่จะต่างกับ Adwords พอสมควร .. เอาละๆ ฟีเจอร์เด็ดๆมีอะไรบ้าง ผมจะลองมารีวิวให้ดู
ในเรื่องการออกแบบโฆษณาถือว่าทำได้ดีเพราะใช้งานง่าย ดูแล้วไม่ซับซ้อน จริงๆแล้วในส่วนนี้ก็คล้ายกับหน้าสร้างโฆษณา Google Adwords เหมือนกัน ใช้งานง่ายพอกัน ต่างตรงที่ Adwords จะง่ายแค่ตรงนี้แหละ ที่เหลือจะค่อน้างซับซ้อน ฮ่าๆ
ถัดมาคือการกำหนด Target ว่าจะให้โฆษณาถูกแสดงกับใครบ้าง ตรงนี้แหละหมัดเด็ด Facebook Ads เขาล่ะ มันมีอะไรบ้างมาดูกันเป็นข้อๆเลย
- สามารถระบุสถานที่ได้ว่าจะให้โฆษณาแสดงกับคนที่มาจากประเทศไหน อันนี้เฉยๆชิมิ Google Adwords ก็ทำได้
- เลือกกลุ่มอายุของกลุ่มเป้าหมายได้อีก .. น่ะเริ่มจะมีความแตกต่างแล้ว ถ้าสินค้าของเราจับกลุ่มวัยทองก็ซัดไปเลยครับ 60up คุณเลือกได้ เยี่ยมไปเลยใช่ม้า
- อันต่อมานี่ผมว่าเด็ด คือเราสามารถเซ็ทได้ว่าจะให้โฆษณาถูกแสดงเฉพาะกับผู้ที่เกิดในวันนั้นๆ .. อันนี้เยี่ยมมากๆ ทำ CRM เสริมสร้างความสัมพันธ์ได้ใจมากเลยนะเนี่ย
- เลือกเพศ ..อะนะ ต่อไปอาจจะมีให้เลือกครบเลยก็ได้ ชะนี เก้ง กวาง ฯลฯ
- Keywords ก็ใส่ keyword ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเราลงไป เป็นการเจาะกลุ่มให้ชัดเจนลงไปอีกว่านอกจากจะได้กลุ่มเป้าหมายที่ต้องการแล้วเเหล่านั้นยังมีความสนใจเฉพาะทางนั้นๆโดยจับคู่คำเอาจาก keyword ที่ผู้ใช้งานของ Facebook ได้ระบุไว้บน Profile ของตัวเอง
- ระบุระดับการศึกษา ซึ่งก็เอามาจาก้อมูลบน Profile อีกเหมือนกัน
- ระบุชื่อที่ทำงานได้อีก งี้ถ้าอยากจะขึ้นป้ายโฆษณาให้พนักงานในบริษัทใดบริษัทหนึ่งเห็นก็ได้น่ะสิ … แหมงี้น่าจะระบุได้เนอะว่าแบบให้เฉพาะฝ่ายจัดซื้อดูได้อย่างเดียว 555
- อีกเรื่องเทพๆก็คือคุณสามารถโฆษณาตรงไปยังคนโสดทั่วนครFacebookได้ … ไม่อยากจะนึกเลย กึ๋ย
- นอกจากเลือกเพศได้แล้วก็ยังเลือกความสัมพันธ์ได้อีก อย่างนี้ก็หมายความว่า …. อ้า ถ้าผมเลือกเพศชาย ที่มีความสนใจเรื่องชาย ก็เท่ากับว่าผมสามารถ target กลุ่มชาวเรา เอ้ย กลุ่มชาวสีม่วงได้แล้วละสิ เทพนะเนี่ย เทพม้ากกกก
- เลือกภาษาที่ผู้ใช้ Facebook เลือกใช้งานได้..
- Connections อันนี้ก็คือในกรณีที่ผู้ลงโฆษณามีการทำ Facebook page, group หรือ application อยู่ด้วยนั้น คุณก็สามารถกำหนดเอาเฉพาะผู้ใช้ที่เป็นสมาชิคอยู่แล้ว หรือผู้ที่ยังไม่ได้เป็นก็ได้ครับ
- สุดท้ายก็จะเป็นแถบข้อมูลให้ดูว่า Target group ที่เราเลือกนั้นมีจำนวนทั้งหมดกี่คนที่อยู่ในระบบของ Facebook มีประโยชน์มากในการคำนวน ROI หรือใช้กำหนด Budget
ส่วนสุดท้ายก่อนที่จะจบขั้นตอนการสร้างโฆษณาก็สามารถที่จะระบุรายละเอียดต่างๆเกี่ยวกับจำนวนงบประมาณรายวัน หรือว่าจะกำหนดให้โฆษณาแสดงในช่วงเวลาไหน และที่สำคัญคือเราจะเลือกวิธีการคิดเงินค่าโฆษณาแบบไหนครับ ซึ่ง Facebook Ads นั้นมีให้เลือกอยู่ 2 วิธีคือแบบ CPM จ่ายต่อจำนวนโฆษณาถูกแสดง 1000ครั้ง หรือเป็นแบบ CPC เมื่อกดเราจ่าย คือเงินค่าโฆษณาจะถูกตัดก็ต่อเมื่อมีการคลิกที่โฆษณาเกิดขึ้นครับ โดยปรกติแล้วโมเดลแบบ CPM จะมีค่าใช้จ่ายที่ถูกกว่า แต่ CPC ก็จะเด่นที่การการันตีว่าโฆษณาถูกใช้งานจริงๆนะถึงค่อยจ่าย.. อันนี้แล้วแต่จะเลือกครับ ส่วนมากผมว่าถ้าต้องการจะโฆษณาสร้าง awareness ก็ควรจะเลือก CPM ไปเลย..
อีกประการที่ควรจำไว้เกี่ยวกับเรื่องการจ่ายค่าโฆษณา Facebook Ads ก็คือ ทาง Facebook จะบันทึกบัตรเครดิตของเราไว้ในระบบตลอดเวลา และจะตัดบัญชีจากบัตรทุกวันตามการใช้งานจริงแต่ต้องมากกว่า $25 ขึ้นไปนะครับ ถ้าต่ำกว่าก็จะตัดเงินอีกทีเมื่อถึงวันที่เกิน $25 ดังนั้นถ้าคุณไม่ได้ระบุวันสิ้นสุดองโฆษณา บัตรเครดิตก็จะถูกตัดไปเรื่อยๆ แต่ยังไงก็ไม่เกินจำนวนวงเงินรายวันที่จะใช้หรับโฆษณาที่ได้ถูกระบุเอาไว้นะครับ
By Rittichart S.
——–
update 14 June 2010 – เนื่องจากมีผู้ติดต่อผมเข้ามามากเลยเกี่ยวกับการลงโฆษณาบน Facebook และส่วนมากก็ต้องการให้ผมเสนอราคาค่าบริการให้ ผมขอแจ้งไว้ตรงนี้นะครับว่าตัวผมเองไม่ได้มีอาชีพรับจ้างหรือรับลงโฆษณาบน Facebook ใดๆนะครับ ยังไงถ้าสนใจขอให้ติดต่อไปที่บริษัทที่รับทำตรงนี้โดยตรง หรือลองดูที่ลิ้งนี้ก่อนก็ได้ครับ http://ads.yellowpages.co.th/facebookads.php